13502 จำนวนผู้เข้าชม |
2 ประเภทเหล็กกล่อง วิธีการเลือกซื้อเหล็กกล่องแบบมืออาชีพ
เหล็กกล่องเป็นเหล็กรูปพรรณที่ช่างส่วนใหญ่มักเรียกกันว่า เหล็กแป๊บหรือท่อเหลี่ยม โดยเหล็กกล่องที่ขึ้นรูปมาจากเหล็กแผ่นที่อุณหภูมิเหล็กปกติ โดยเป็นการพับแผ่นเหล็กและเชื่อมติดกัน ซึ่งเหล็กกล่องมี 2 ประเภท ได้แก่
1. เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส (Square Steel Tube) หรือที่เรียกกันว่า เหล็กแป๊บเหลี่ยม จะมีลักษณะเหล็กโปร่ง กลวงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส จะมีความยาว 6 เมตรต่อเส้น มีมุมฉากที่เรียบคม ไม่มนได้มุมฉาก 90 องศา ผิวเรียบไม่หยาบ ขนาดความยาวต้องวัดได้หน่วยมิลลิเมตร ผิดพลาดไม่เกิน 2% ขนาดต้องเท่ากันทุกเส้น ซึ่งเหล็กแป๊บเหลี่ยมนี้เหมาะกับงานโครงสร้างที่ไม่รับน้ำหนักมาก เช่น ทำนั่งร้าน เสา และยังสามารถใช้แทนการใช้ไม้ คอนกรีตได้อีกด้วย
2. เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมแบน (Rectangular Steel Tube) หรือที่เรียกกันว่าเหล็กแป๊บแบน เหล็กกล่องไม้ขีด เหล็กชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ข้างในกลวง มีความยาว 6 เมตรต่อเส้น ความยาวที่วัดได้ต้องผิดพลาดไม่เกิน 2% เหมาะสำหรับงานทั่วไปขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น ทำนั่งร้าน เสา และยังสามารถใช้แทนการใช้ไม้ คอนกรีตได้อีกด้วย
สำหรับเหล็กกล่องทั้ง 2 ชนิดนี้เหมาะกับงานก่อสร้างขนาดกลางและขนาดเล็ก เช่น ที่พักอาศัย และอาคารพานิชย์ สำนักงาน ออฟฟิศ โครงหลังคาเหล็ก คานเหล็ก โครงสร้างโรงจอดรถ เป็นต้น ทั้งนี้สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการ และราคาเหล็กกล่องจะมีการปรับขึ้นๆ ลงๆ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามภาวะตลาดโลก
ข้อดีของเหล็กรูปพรรณ
1. มีน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน
2. มีความยืดหยุ่นสูง ลดการเสียรูปอย่างถาวร
3. ก่อสร้างได้ง่าย และรวดเร็ว
4. ดัดแปลง ต่อเติม หรือรื้อไปสร้างใหม่ได้ ไม่ต้องทุบทิ้ง
5. สามารถรับแรงสั่นสะเทือนและแผ่นดินไหวได้ดีกว่าโครงสร้างระบบอื่น
6. สามารถนำวัสดุมาหมุนเวียนได้ 100%