2911 จำนวนผู้เข้าชม |
ไม้อัดสัก ในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้อัดสัก
ไม้อัดสัก หรือไม้อัดลายไม้สัก เป็นไม้อัดที่เกิดจากการเอาแผ่นวีเนียร์เยื่อไม้ของต้นสัก มาแปะทับแผ่นไม้อัดประกอบให้ยึดติดกันด้วยกาว E2 ลักษณะที่สำคัญคือ การจัดให้ไม้บางแต่ละแผ่นมีแนวเสี้ยนขวางตั้งฉากกัน เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และลดการขยายตัว หรือหดตัวในระนาบของแผ่นให้น้อยที่สุด คุณสมบัติอีกประการของไม้อัดสักคือ ใช้กาว E2 ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ มาตรฐานยุโรป มีขนาดมาตรฐานคือ 1,220 มม. X 2,440 มม. ความหนา 3 มม., 4 มม., 6 มม. และ 10 มม. ด้วยลายที่สวยงามของไม้สัก จึงนิยมนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ตกแต่งภายใน แบบโชว์ลายไม้ และนำมาประกอบเป็น Top โต๊ะ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก ลวดลายของไม้ขึ้นอยู่กับแผ่นวีเนียร์ที่นำมาปิดทับที่ผิวหน้า เช่น ไม้อัดแฟนซี แอชจีนลายเส้น ไม้อัดยางสักธรรมชาติลายภูเขา ไม้อัดยางสักธรรมชาติลายเส้น ไม้อัดสักอิตาเลียนลายภูเขา โดยจะเคลือบลายไม้ หรือไม่เคลือบก็ได้
ไม้อัดสักมี 2 แบบ คือ
1. ไม้อัดสักธรรมชาติ เกิดจากนําไม้อัดสักแท้ๆ มาสไลด์ตามเสี้ยน หรือขวางเสี้ยนตามเทคนิคเฉพาะให้เกิดเป็นลายเส้น และลายภูเขา แล้วนํามาปิดทับบนแผ่นไม้อัดตามขนาดความหนาตามต้องการ ทำให้เกิดลวดลายที่เสมือนจริง แต่ละแผ่นจะมีลวดลายที่ไม่เหมือนกัน เนื้อไม้จึงแข็งแรงทนทานสูง รองรับน้ำหนักได้ดีและยากต่อการหดหรือขยายตัว เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งต่างๆ
2. ไม้อัดสักอิตาลี เกิดจากการนําไม้ป่าปลูกมามาสไลด์ และย้อมสี จากนั้นนํามาอัดเรียงซ้อนเป็นชั้นๆ สลับกัน และอัดรวมกันเป็นท่อน แล้วใช้เทคนิคในการสไลด์ให้เกิดเป็นลายเส้น และลายภูเขาตามความต้องการ แล้วจึงนําไปปิดทับบนไม้อัดตามขนาดความหนาตามต้องการ โดยที่ทุกแผ่นจะมีลวดลายที่เหมือนกัน ทำให้มีราคาถูกกว่าไม้อัดสักธรรมชาติ นิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งภายในต่างๆ
ดังนั้นสรุปได้ว่า ไม้อัดสักธรรมชาติกับไม้อัดสักอิตาลี ต่างกันตรงที่วัตุดิบในการผลิตวีเนียร์หน้าแผ่น และราคาซึ่งไม้อัดสักอิตาลีจะมีลายเหมือนกันทุกแผ่นเพราะเกิดจากการประดิษฐ์ขึ้นมา ข้อดีคือมีราคาถูกต่องานง่าย ส่วนไม้อัดสักธรรมชาติ แต่ละแผ่นจะมีลายไม่เหมือนกันเพราะเกิดจากลายที่มาจากธรรมชาติ ข้อดีคือมีลายเสมือนจริงใกล้เคียงธรรมชาติ และมีความคงทนแข็งแรง
เทคนิคในการเลือกซื้อไม้อัดสัก
1. ขนาดของไม้อัด คือขนาดความกว้าง*ยาว ซึ่งขนาดมาตรฐานของไม้อัดโดยทั่วไปคือ กว้าง 4 ฟุต x ยาว 8 ฟุต หรือ กว้าง 1.2 เมตร *2.4 เมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานเดียวกันของไม้อัดทุกแบบ
2. ความหนาของไม้อัดเป็นปัจจัยสำคัญมากที่ต้องดู เมื่อเลือกซื้อไม้อัด เพราะความหนาที่ต่างกันก็ใช้งานต่างกัน ไม้อัดที่ซื้อขายกันทั่วไปในท้องตลาด จะมีความหนาไม่เต็มตามขนาดที่ระบุไว้ เช่น ขนาด 10 มม. จะหนาจริงประมาณ 7.5-8.8 มม. เป็นต้น ซึ่งหากต้องการไม้อัดขนาดเต็ม ต้องเลือกไม้อัดที่มี มอก.
3. คุณภาพของไม้อัด เลือกที่มีมาตรฐาน มอก. รองรับ
4. ประเภทการใช้งาน ก่อนซื้อไม้อัดต้องดูว่าซื้อไม้อัดไปใช้งานประเภทไหน เช่น ใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ พื้นเตียง ทำตู้ ทำลำโพง หรืองานหล่อแบบ ก็ใช้ไม้อัดขนาดความหนาที่ต่างกัน
5. ราคาของไม้อัด เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เช่น เพราะต้องดูงบประมาณต่อการเลือกซื้อไม้อัด