ไม้ยางพาราแปรรูปในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้ยางพาราแปรรูป

ไม้ยางพาราแปรรูปในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้ยางพาราแปรรูป

          ไม้ยางพาราแปรรูป คือ การนำไม้ยางพารามาผ่านกระบวนการผลิต ในขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งไม้ยางพาราแปรรูปสำหรับนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้แปรรูปที่อยู่ในรูปแบบของไม้แท่ง หรือไม้แผ่น พวกเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราต่างๆ เช่น โต๊ะไม้ยางพารา เก้าอี้ไม้ยางพารา ตู้เสื้อผ้าไม้ยางพารา เป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีในการผลิตคุณภาพ เพื่อให้ได้มาซึ่งไม้ยางพาราแปรรูปคุณภาพ ไม้ยางพาราแปรรูปเริ่มจาก การแยกไม้ยางพารา เป็นแผ่นๆ ตามขนาดที่เราต้องการ จากนั้นนำไปอัดน้ำยาสำหรับใช้ในการรักษาเนื้อไม้เพื่อป้องกันเนื้อไม้ไม่ให้เกิดเชื้อรา กันแมลง และไม่ให้ไม้มีสีที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดง ทำโดยใช้เครื่องจักรเพื่อทำให้เกิดแรงดัน ดันสารเคมีเข้าไปอยู่ในเนื้อไม้ ซึ่งสารที่ใช้ในการรักษาเนื้อไม้ คือสารประเภทโบรอน หรือที่มักจะได้ยินในชื่อ น้ำยาอัดขาว น้ำยาอัดเขียว นั้นเอง การอัดน้ำยาให้ไม้โดยเครื่องจักรเป็นที่นิยมใช้มากในปัจจุบัน เพราะสามารถอัดน้ำยาเข้าไปได้ลึกและสม่ำเสมอกว่าวิธีอื่น อีกทั้งยังสามารถคุมปริมาณน้ำยาที่เข้าไปในเนื้อไม้ได้ตามที่ต้องการอีกด้วย และสามารถใช้วิธีการอัดน้ำยาได้ทั้งกับไม้สดและไม้อบแห้ง

ไม้ยางพาราแปรรูปสามารถจำแนกลักษณะออกเป็นประเภทย่อยๆ ได้ 2 เกรดหลักๆ ดังนี้

          1. ไม้ยางพาราเกรดเฟอร์นิเจอร์ หรือไม้ยางพาราเกรด AB เป็นการผสมระหว่างหน้าไม้เกรด A ที่มีตำหนิของเนื้อไม้น้อย สีของไม้ที่สวยเป็นธรรมชาติและหลังไม้เป็นไม้เกรด B ที่ไม้มีความสวยน้อยกว่าด้านหน้าเล็กน้อย มีตาดำเล็กน้อย   ให้ไม้ที่สวยงาม ด้านที่ต้องการโชว์เนื้อไม้ก็ใช้ส่วนของด้าน A และส่วนด้าน B ก็เอาไว้ใช้ทำส่วนของด้านใน ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่หลายๆ คนเลือกใช้สำหรับการนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่งที่เน้นการโชว์สี ลายไม้ตามธรรมชาติ และพวกเฟอร์นิเจอร์ Built in ต่างๆ ส่วนลักษณะเด่นของไม้ประเภทนี้ก็คือ เนื้อไม้แน่น ไม่มีไส้ไม้ สีของไม้เท่ากันทั้งแผ่น ตาไม้น้อย   (จุดกลมๆ ที่อยู่ระหว่างเนื้อไม้) มีตำหนิต่างๆ น้อย และไม่มีการซ่อมสีของเนื้อไม้ เป็นต้น ไม้ยางพาราเกรดนี้เหมาะอย่างมากในการนำไปใช้กับอะไรที่ต้องการโชว์ความสวยงามของไม้ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ อย่างโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ ที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก หรือการนำไปใช้เป็นวัสดุสำหรับก่อสร้างบางอย่าง เช่น พื้นไม้ บันไดไม้ ไม้ยางพาราแปรรูป รวมถึงการทำเฟอร์นิเจอร์ Built in เป็นต้น

          2. ไม้ยางพาราเกรดไม้พาเลท หรือไม้ยางพาราเกรด C เป็นไม้ยางพาราเกรดที่คุณภาพของเนื้อไม้ภายนอกดรอปลงมาจากไม้เกรดเฟอร์นิเจอร์ในด้านของความสวยงามของเนื้อไม้ เป็นไม้ที่อาจจะมีตำหนิบนเนื้อไม้มากกว่าเกรดไม้ทำเฟอร์นิเจอร์   ส่วนใหญ่มักจะมีตาไม้มากกว่า สีของไม้อาจจะไม่ทั่วกันทั้งแผ่นเล็กน้อย และในบางส่วนอาจจะมีตำหนิที่ไม้ในบางจุด   เป็นเนื้อไม้ที่อาจจะไม้สวยเท่าเกรดแรก แต่ในเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน คุณสมบัติต่างๆ ของไม้ยางพาราไม่ได้ดรอปลงเลย อาจจะใช้การทาสีเพื่อปกปิดรอยตำหนิต่างๆ ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ไปทำพวกไม้พาเลท ไม้ประกอบงานก่อสร้างต่างๆ   แต่ไม่นิยมนำไปทำเฟอร์นิเจอร์โชว์ลายไม้เท่าเกรดแรก จะมีลักษณะเด่นในเรื่องของความแข็งแรง ความทนทาน เนื้อไม้ที่แน่น ง่ายต่อการทาสี (สามารถใช้กลบรอยตำหนิต่างๆ ได้) การนำไปใช้งานที่หลากหลาย เป็นต้น ไม้ยางพาราเกรดนี้เหมาะสำหรับการนำไปใช้กับพวกที่ไม่เน้นโชว์ความสวยงามของเนื้อไม้มากนัก แต่เน้นอาศัยความแข็งแรง ทนทานของไม้ในการนำไปใช้งาน อย่างเช่นการนำไปทำไม้พาเลท ไม้จ๊อย ไม้โครง รวมทั้งวัสดุสำหรับก่อสร้างต่างๆ หรือจะนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เน้นความสวยงามของเนื้อไม้ เน้นความเป็นธรรมชาติของเนื้อไม้ อย่างเช่น การนำไปไม้พาเลทมาประยุกต์เป็นเตียงนอน โซฟา เฟอร์นิเจอร์ภายนอกต่างๆ เป็นต้น

การเลือกซื้อไม้ยางพาราแปรรูป

          1. เลือกซื้อตามเกรดที่ต้องการ โดยจะมีให้เลือก 2 เกรด คือ เกรด AB และเกรด C

          2. เลือกขนาดของไม้ที่ต้องการ

การเก็บรักษาไม้ยางพาราแปรรูป

• ควรเก็บไม้ให้ห่างจากความชื้น ถึงแม้ไม้ยางพาราแปรรูปจะผ่านการอัดน้ำยา และอบไม้มาแล้ว แต่ทางที่ดีควรเก็บไม้ให้ดี อย่าให้ไม้เปียกน้ำ เนื่องจากจะทำให้ไม้พอง บวม ส่งผลให้สูญเสียรูปทรงและการทรงตัวของไม้ได้ ควรเก็บไม้ในที่แห้ง และโปร่งเพื่อป้องกันไม้จากความชื้น
• ไม่ควรวางไม้กับพื้นโดยตรง เนื่องจากพื้นก็มีความชื้นอยู่ ถึงแม้จะดูเหมือนแห้งก็ตาม ทางที่ดีควรหาอะไรมารองไม้เอาไว้
• ไม่ควรวางไม้ไว้กลางแจ้ง เนื่องจากสภาพอากาศทั้งแดด และฝน ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ทำลายเนื้อไม้ทั้งสิ้น   หากวางไว้กลางแจ้ง แดดอาจจะเลียสีของไม้ ทำให้สีของไม้เพี้ยนไปจากเดิม ทางที่ดีควรหาอะไรคลุมเอาไว้