ไม้หน้าสามในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้หน้าสาม

ไม้หน้าสามในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้หน้าสาม

          ไม้หน้าสามเป็นไม้ที่ใช้ในการก่อสร้าง แต่ก่อนเป็นที่นิยมกันมากที่สุด มีหน้าตัดขนาด 1.5”x3” เพราะเป็นไม้ที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ กำลังพอดี เหมาะสำหรับงานทำนั่งร้าน ใช้ตีผังก่อสร้าง ทำแปหลังคา (กระเลื้องลอน) ทำเคร่าฝาผนัง ทำเคร่าฝ้าเพดาน ไม้โครงเฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย นิยมนำไม้เบญจพรรณ และไม้ยาง มาตัดขนาดตั้งแต่ 1 ม. เป็นต้นไป มีเนื้อเหนียว และรายละเอียดเหมาะแก่งานตอกตะปูเพื่อยึดและค้ำงานต่างๆ ในการก่อสร้าง

ขนาดของไม้หน้าสาม เหมาะกับการใช้งาน

          ไม้หน้าสาม ขนาด 1.5” x 3” ความยาว 1 เมตร - 6 เมตร  เหมาะสำหรับงานรัดแบบก่อสร้าง งานทำค้ำยัน งานใช้ทำโครงผนัง โครงฝ้า ตีแบบ ใช้ค้ำยัน ใช้งานได้หลากหลาย ไม้แบบก่อสร้าง ไม้โครงเฟอร์นิเจอร์ งานทำนั่งร้าน ใช้ตีผังก่อสร้าง ทำแปหลังคา(กระเบื้องลอน) ทำเคร่าฝาผนัง ทำเคร่าฝ้าเพดาน ฯลฯ

การเลือกไม้ที่จะนำมาใช้งานต้องพิจารณาใน 2 ประเด็นคือ

1. การเลือกไม้มาใช้ในงานประณีต เช่น บาน ประตู หน้าต่าง เครื่องเรือน ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ หรือครุภัณฑ์ต่างๆ ที่จะทำอย่างประณีตเรียบร้อยและต้องการความสวยงามมากกว่าความแข็งแรง เป็นงานที่ทำได้ยากและต้องใช้ฝีมือ หลักการเลือกไม้มาใช้งานประเภทนี้ 

• ไม้นั้นจะต้องได้จากแก่นไม้ที่สมบูรณ์ คือ จากต้นไม้ที่เจริญเติบโตเต็มที่เหมาะสมตามสภาพดินฟ้าอากาศของถิ่นนั้นๆ เป็นไม้ที่ตายยืนต้น  
  
• เป็นไม้ที่หดตัวแล้ว คือเป็นไม้ที่ผึ่งแห้งอยู่ตัวดีแล้ว เมื่อนำมาประกอบสำเร็จรูปจะไม่เกิดอ้าออกจากกันหรือบิดโค้งเสียความงาม   
  
• ไม้เนื้อละเอียดเหนียวแน่น มีแนวตรง ไสกบตกแต่งได้ง่ายเรียบร้อยขัดมันและชักเงาได้ดี   
  
• มีสีสม่ำเสมอกันทุกแผ่น และทุกๆแผ่นมีสีเหมือนกันด้วย   
  
• มีลายสวยงามคล้ายๆกัน เพื่อเพลาะไม้เป็นแผ่นเดียวกันได้   
  
• เป็นไม้ที่มีตาน้อย ตาไม้ไม่เสีย ไม่มีรอยแตกร้าว เป็นแผล เป็นรอยทะลุ   
  
• ไม้ที่เป็นรอยผุ ด่างหรือเน่าเปื่อย (ไม้ที่ยังไม่ได้ไสสังเกตยาก) ทดลองโดยใช้ค้อนเคาะไม้ดีจะมีเสียงแน่นแกร่ง ถ้าไม่ผุหรือเสีย เปราะ ไม่เหนียว มีเสียงดังผลุๆ เลื่อยไม่ติดคลองเลื่อย ไสกบขี้กบจะป่น     

2. การเลือกมาใช้ในงานรับน้ำหนัก ควรเป็นไม้ที่ใช้ในการก่อสร้างที่ไม่ต้องการความประณีตมากนัก เช่น การก่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ไม้จำพวกนี้ต้องทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับน้ำหนักและต้านทานแรงต่างๆ มากกว่าความสวยงาม ความแข็งแรงจึงเป็นข้อแรกที่จะต้องคัดเอาไม้ที่แข็งแรงเท่าที่จะสามารถทำได้ คือ

• ต้องเป็นไม้ที่เนื้อแน่น  แข็งแกร่ง  เหนียว  ไม่เปราะง่าย 
  
• ควรเลือกไม้แก่นหรือไม้ที่มีอายุเหมาะแก่การตัด
  
• ไม่มีรอยชำรุดเสียหาย เช่น เป็นตา ผุ  แตกร้าว บิดงอ คด โค้ง และเป็นไม้ที่ผ่านการผึ่งมาได้ที่พอเหมาะแก่งานประเภทนี้
  

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม้ยูคา ในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้ยูคา

ไม้หน้าสามในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้หน้าสาม

ไม้แบบในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้แบบ

ไม้ก่อสร้างในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้ก่อสร้าง