ไม้โครง ไม้จ๊อยในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้โครง ไม้จ๊อย

856 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ไม้โครง ไม้จ๊อยในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้โครง ไม้จ๊อย

          ไม้โครง เป็นไม้ที่มักนำไปใช้เป็นโครงสร้างหลัก สำหรับเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งผนัง งานฉาก ไปจนถึงงานประตู หรือหน้าต่าง โดยจะมีไม้อัด หรือวัสดุอื่นมาประกอบปิดเพียงด้านเดียว หรือทั้ง 2 ด้านก็ได้เช่นกัน เพื่อให้โครงสร้างมีความแข็งแรงมากขึ้น

          หน้าที่หลักของไม้โครง คือใช้เป็นตัวโครงสร้างหลัก ถ้าเปรียบกับการสร้างบ้านก็คืองานโครงสร้างพวก เสา คาน นั่นเอง หรือเป็นการขึ้นตู้ ก่อนที่จะนำไม้อัดมาประกบ และเป็นตัวที่ใช้ในการนำไปจับยึด จากตะปูเกลียว หรือตะปู ให้เกิดความแข็งแรงของตู้ ตัวเฟอร์นิเจอร์ หรือเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่ต้องการ สำหรับไม้ที่นำมาเป็นไม้โครงนั้น จะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือ

          1. ไม้โครงเส้น เป็นไม้ท่อนเดียว ที่นำมาตัดเป็นเส้นยาวๆ เพื่อนำไปใช้ในการทำโครงสร้างต่างๆ อาจจะมีราคาแพงกว่า หายากกว่าไม้โครงจ๊อย รวมถึงมีโอกาสที่ไม้จะบิด เมื่อใช้งานไปนานๆ อีกด้วย

          2. ไม้โครงแบบต่อ (จ๊อยท์) จะเป็นไม้เส้นสั้นๆ ที่นำมาประกอบกันให้กลายเป็นไม้โครงเส้นยาว มีความแข็งแรง และไม่บิดงอ เมื่อใช้งานไปนานๆ ง่ายต่อการนำไปใช้งานต่อ สำหรับการจ๊อยไม้นั้น จะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ

  • แบบนิ้วประสาน Finger-joint ที่เห็นเป็นรอยฟันปลาที่ประสานกันระหว่างไม้ 2 ชิ้น อยู่ที่ด้านความกว้างของไม้
  • แบบ Butt-joint ที่ด้านกว้าง เป็นรอยเส้นตรง โดยทั้งสองประเภทนั้น จะใช้กาวอุตสาหกรรม และเครื่องจักรในการประกอบกับไม้ให้ติดกัน
          ไม้โครงที่นำมาใช้เป็นโครงเส้น และโครงจ๊อย จะมีให้เลือกหลากหลายไม้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไม้สยา ไม้สน ไม้สะเดา ไม้ยางพาราอัดน้ำยา หรือไม้เบญจพรรณอัดน้ำยา

          ไม้จ๊อย เป็นการนำไม้ท่อนสั้นๆ มาผ่านขั้นตอนกระบวนการ เพื่อเพิ่มความยาวให้แก่ไม้ ซึ่งจะใช้การเชื่อมไม้เข้าด้วยกัน จนเกิดความแข็งแรงด้วยเทคนิคการทำเป็นร่องฟันปลาเพื่อต่อให้ไม้มีขนาดที่ยาวมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น หากต้องการความแข็งแรงจะเชื่อมด้วยกาวเพื่อให้ได้ความยาวที่ต้องการ สำหรับนำไปใช้เป็นโครงสร้างสำหรับก่อสร้าง ตกแต่ง หรือเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้จ๊อย ได้หลากหลาย เช่น ทำบานหน้าต่าง บานประตู ทำราวบันได ทำไม้พื้น หรืออาจจะใช้ไม้จ๊อยในการทำเป็นไม้โครงในตู้ หรือตกแต่งต่างๆ ตลอดจนนำไปแปรรูปเป็นไม้จ๊อยแผ่นในการผลิตเป็นโต๊ะ เก้าอี้ได้อีกด้วย ไม้จ๊อย ที่นิยมนำมาแปรรูป มี 4 ประเภท ได้แก่  

          1. ไม้จ๊อยโครง มีรูปแบบและการใช้งานเฉพาะตัว เปรียบเสมือน เสา-คานหลักของอาคาร เหมาะสำหรับงานขึ้นรูปอาคารต่างๆ ที่มีขนาดใหญ่หรือกว้างมากและต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ

ขนาดของไม้จ๊อยโครง
  • ความกว้างแบ่งเป็น 2 ขนาด คือ 35 mm, 42-45 mm.
  • ความยาว ขนาด 2.5 mm. หรือขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้นงาน
  • ความหนาแบ่งเป็น 2 ขนาด คือ 17.5 mm, 20-22 mm.

          2. ไม้จ๊อยแผ่น เป็นแผ่นไม้เรียบเสมอกัน และมีขนาดเท่ากัน นิยมใช้กับงานที่ต้องการความสวยงาม อย่างงานประเภท ผนังเบา ผนังกั้นห้อง หรือเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ และเก้าอี้ 

ขนาดของไม้จ๊อยแผ่น
  • ความกว้าง ขนาด 60 cm.
  • ความยาว ขนาด 2.5 m.
  • ความหนาแบ่งเป็น 2 ขนาด คือ 1.2 cm., 1.6-2.2 cm.

          3. ไม้ท่อนจ๊อย เป็นแผ่นไม้ชนิดหนา มีความแข็งแรง คงทน เหมาะสำหรับงานประเภททำเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เตียง เก้าอี้ ตกแต่งบ้านพวกราวบันได หรือนำไปทำเป็น ไม้คิ้ว ไม้บัว สำหรับตกแต่งภายในบริเวณขอบหน้าต่าง ขอบประตู เป็นต้น

ขนาดของไม้จ๊อยท่อน
  • ความหน้ากว้าง มี 2 ขนาด คือ 40 cm., 80 cm.
  • ความยาวมาตรฐาน คือ 4 - 6 m.
  • ความหนา มีให้เลือกหลากหลาย สามารถเลือกขนาดได้ตามความต้องการ

          4. ไม้จ๊อยขนาดพิเศษ (สั่งทำ) มีรูปร่างและลักษณะเฉพาะตัว เหมาะสำหรับงานประเภททำงานศิลปะ หรือ งานไม้ที่ต้องอาศัยความคงทนและสวยงาม

          ดังนั้นการใช้งานไม้โครง ไม้จ๊อย ควรเลือกให้เหมาะสมกับงาน ว่าต้องการทำแบบไหน รับน้ำหนักหรือไม่ หรือจะนำไปย้อมสีพ่นสี ก็ควรเลือกให้เหมาะสมจึงจะงานที่มีคุณภาพตามต้องการ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม้ยูคา ในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้ยูคา

ไม้หน้าสามในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้หน้าสาม

ไม้แบบในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้แบบ

ไม้ก่อสร้างในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้ก่อสร้าง

ไม้โครง ไม้จ๊อยในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้โครง ไม้จ๊อย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้