932 จำนวนผู้เข้าชม |
แผ่นหลังคาและผนังเหล็ก LYSAGHT TRIMDEK®
แผ่นหลังคาและผนัง LYSAGHT TRIMDEK® ของบริษัท เอ็นเอส บลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นแผ่นหลังคาโลหะคุณภาพระดับ “พรีเมี่ยม” ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเมืองไทย ด้วยความโดดเด่นในการออกแบบรูปลอนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผสมผสานกับสไตล์อันทันสมัยได้อย่างลงตัว ทำให้ LYSAGHT TRIMDEK® คือ ทางเลือกที่ประหยัดและคุ้มค่าที่สุด สำหรับอาคารในทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า อาคารพาณิชย์ ศูนย์การค้า ตลอดจนที่พักอาศัย
แม้ว่ารูปลอน LYSAGHT TRIMDEK® จะยังคงเหมือนเดิม แต่ประสิทธิภาพได้เพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากการพัฒนาและปรับปรุง “LIMIT STATE” Design Tables ซึ่งได้ใช้ข้อมูลในการออกแบบและ Wind Load ได้อย่างแม่นยำและทันสมัย รวมทั้งได้ทำการทดสอบด้วยวิธี “Direct Pressure Testing Rig” ในห้องทดลองของศูนย์วิจัยระดับโลกของ NATA’S Labarotary Australia
รูปลอน
ด้วยโครงสร้างของรูปลอนที่ถูกออกแบบให้มีความแข็งแกร่ง ทำให้ LYSAGHT TRIMDEK® พาดช่วงแปได้ไกล อันจะช่วยให้ลดจำนวนแปที่ใช้งานลง นั่นย่อมหมายถึงค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างก็ลดลงด้วยเช่นนกัน นอกจากนี้บริเวณ Side-lap ได้รับการออกแบบรูปลอนให้สามารถป้องกันน้ำไหลย้อน และความยาวที่ต่อเนื่องของตัวแผ่น ยังช่วยป้องกันการรั่วซึมของน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถดัดโค้งตามโครงสร้าง (Sprung Curve) ได้ทั้งแบบโค้งคว่ำและโค้งหงายได้อีกด้วย
ความยาวแผ่น
แผ่นหลังคาและผนัง LYSAGHT TRIMDEK® สามารถผลิตให้มีความยาวตามขนาดที่ต้องการแต่ไม่ควรยาวเกิน 24 เมตร
ช่วงคลาดเคลื่อนของขนาดแผ่น
ความยาว ± 15 มม. ความกว้าง ± 4 มม. ความหนา ± 0.05 มม.
ลักษณะการจัดส่ง
แผ่นจะถูกวางซ้อนทับและมัดรวมกันเป็นมัดโดยมีน้ำหนักมัดละไม่เกิน 1 ตัน พร้อมทั้งดูแลรักษาผลิตภัณฑ์ ด้วยการใช้พลาสติกห่อหุ้มแผ่นหลังคาแลละแผ่นปิดครอบทุกรุ่นทุกประเภท
มุมลาดเอียงของหลังคา
โดยทั่วไปมุมลาดเอียงต่ำสุดของหลังคา LYSAGHT TRIMDEK® ที่แนะนำคือ 5 องศา หรือประมาณ 1 ต่อ 12
ข้อมูลจำเพาะของวัสดุ
แผ่นหลังคารุ่น LYSAGHT TRIMDEK® ผลิตจากเนื้อเหล็ก G550 (มีค่า Yield Strength ไม่ต่ำกว่า 550 MPa) ซึ่งมีความหนาของแผ่นเหล็กไม่รวมชั้นเคลือบ (BMT) และความหนารวมชั้นเคลือบ ZINCALUME® (TCT) ตามรายละเอียดที่แสดงไว้ในรายละเอียดวัสดุ อย่างไรก็ตามหากต้องการความหนาอื่นๆ โปรดติดต่อกลับมายังบริษัทฯ
สำหรับแผ่นหลังคา LYSAGHT TRIMDEK® แบบ ZINCALUME® ถูกผลิตขึ้นตามมาตรฐานออสเตรเลีย AS1397- G550-AZ150 โดยมีปริมาณการเคลือบไม่น้อยกว่า 150 กรัม/ตร.ม และแบบ Clean COLORBOND® เป็นไปตามมาตรฐานออสเตรเลีย AS2728 “Pre-painted and Organic Film/Metal Laminate Products”
รายละเอียดวัสดุ
ZINCALUME® | Clean COLORBOND® | |||||
ความหนาแผ่นเหล็กไม่รวมชั้นเคลือบ (BMT) | 0.35 mm. | 0.42 mm. | 0.48 mm. | 0.35 mm. | 0.42 mm. | 0.48 mm. |
ความหนาแผ่นเหล็กรวมชั้นเคลือบ (TCT) | 0.40 mm. | 0.47 mm. | 0.53 mm. | 0.436 mm. | 0.505 mm. | 0.565 mm. |
ZINCALUME® | Clean COLORBOND® | |||||
น้ำหนักแผ่น/พื้นที่ (กก./ตร.ม.) | 3.61 | 4.29 | 4.87 | 3.68 | 4.36 | 4.95 |
น้ำหนักแผ่น/ความยาว (กก./ม.) | 2.74 | 3.26 | 3.70 | 2.8 | 3.31 | 3.76 |
พื้นที่ปิดคลุม (ตร.ม./ตัน) | 277 | 233 | 206 | 272 | 229 | 202 |
ระยะพาดแปและการระบายน้ำฝน
ระยะห่างสูงสุดระหว่างจุดรองรับ
ตารางที่ 1 ระยะห่างสูงสุดที่ยอมให้ระหว่างจุดรองรับนี้ทดสอบตามมาตรฐานออสเตรเลีย AS 1562-1992 และ AS 4040.1-1992 โดยระยะห่างของจุดรองรับสำหรับหลังคาที่แนะนำนี้เพียงพอต่อการรับแรงจากการเดินบนหลังคา รวมถึงน้ำหนักของการขึ้นไปซ่อมบำรุงหลังคา
ระยะห่างของจุดรองรับสำหรับผนัง เป็นไปตามเกณฑ์ดังนี้ คือ ความสูงของอาคารไม่เกิน 10 เมตร ในพื้นที่ที่ไม่มีพายยุไซโคลนตามมาตรฐานออสเตรเลีย AS 1170.2-1989
ตาราง 1 ระยะห่างสุดที่ยอมให้ของช่วงแป (มม.)
ลักษณะช่วงแป | Max. Allowable Support Spacings (mm.) | ||
Base Metal Thickness (BMT) | 0.35 | 0.42 | 0.48 |
ความหนารวมชั้นเคลือบ ZINCALUME® | 0.40 | 0.47 | 0.53 |
ความหนารวมชั้นเคลือบสี Clean COLORBOND® | 0.435 | 0.505 | 0.565 |
For Roof (หลังคา) : กรณีแผ่นตรง | |||
ช่วงแปเดี่ยว (Single Span) | 1000 | 1100 | 1500 |
ช่วงแปปลาย (End Span) | 1100 | 1300 | 1700 |
ช่วงแปกลาง (Internal Span) | 1500 | 1900 | 2300 |
ช่วงยื่นล้ำ (Unstiffened Overhang) | 150 | 150 | 200 |
For Sqrung Roof (หลังคา) : กรณีดัดโค้งธรรมชาติ | |||
ช่วงแปเดี่ยว (Single Span) | 1000 | 1100 | 1500 |
ช่วงแปปลาย (End Span) | 1100 | 1300 | 1500 |
ช่วงแปกลาง (Internal Span) | 1500 | 1500 | 1500 |
For Wall (ผนัง) | |||
ช่วงแปเดี่ยว (Single Span) | 1200 | 2000 | 2200 |
ช่วงแปปลาย (End Span) | 1200 | 2000 | 2200 |
ช่วงแปกลาง (Internal Span) | 1800 | 2500 | 2800 |
ช่วงยื่นล้ำ (Unstiffened Overhang) | 150 | 150 | 200 |
ตารางที่ 2 แสดงถึงความสามารถของหลังคาในการรับแรงลมที่ระยะพาดแปต่างๆ (ในลักษณะ Uplift) ณ จุดที่หลังคาไม่เสียรูปทรง (Serviceability) และที่หลังคาถึงจุดวิบัติ (Strength Limit State)
โดย Serviceability Limit State เป็นค่าแรงดันลมที่สถานะใช้งาน โดยทำการทดสอบจนถึงจุดที่ค่าการโก่งตัวของแผ่นไม่เกิน (Span/120+P/30) โดยที่ P คือระยะห่างสูงสุดของสกรูที่ทำการยึดแผ่น
และค่า Strength Limit State ได้จากการทดสอบแผ่นจนถึงจุดวิบัติ ผลการทดสอบตามตาราง เป็นการทดสอบที่ความหนาของแปไม่น้อยกว่า 1 มม. เนื่องจากความหนาของแปมีผลต่อการจับยึดสกรู
ตารางที่ 2 ค่าแรงดันลมสูงสุดที่ยอมให้เกิดขึ้นได้บนแผ่น (kPa)
Base Metal Thickness (mm.) | ลักษณะช่วงแป | Limit State | ระยะแป (มม.) | ||||||||
600 | 900 | 1200 | 1500 | 1800 | 2100 | 2400 | 2700 | 3000 | |||
(BMT) 0.35 | ช่วงแปเดี่ยว | Serviceabilit | - | 2.15 | 1.60 | 1.20 | 0.80 | 0.55 | 0.40 | 0.35 | 0.30 |
Strength | - | 7.20 | 5.90 | 4.30 | 3.50 | 2.90 | 2.45 | 0.20 | 2.00 | ||
ช่วงแปปลาย | Serviceabilit | - | 2.90 | 2.10 | 1.60 | 1.20 | 0.90 | 0.65 | - | - | |
Strength | - | 4.50 | 3.10 | 2.20 | 1.80 | 1.60 | 1.50 | - | - | ||
ช่วงแปกลาง | Serviceabilit | - | 2.85 | 2.45 | 2.20 | 1.75 | 1.50 | 1.00 | - | - | |
Strength | - | 5.90 | 4.75 | 3.95 | 3.40 | 3.10 | 3.00 | - | - | ||
(BMT) 0.42 | ช่วงแปเดี่ยว | Serviceabilit | 4.98 | 3.91 | 2.83 | 1.87 | 1.16 | 0.75 | 0.53 | - | - |
Strength | 10.25 | 8.35 | 6.45 | 4.75 | 3.60 | 3.00 | 2.75 | - | - | ||
ช่วงแปปลาย | Serviceabilit | 4.18 | 3.63 | 3.08 | 2.55 | 2.06 | 1.62 | 1.22 | 0.85 | 0.50 | |
Strength | 6.35 | 5.85 | 5.30 | 4.80 | 4.30 | 3.80 | 3.25 | 2.75 | 2.25 | ||
ช่วงแปกลาง | Serviceabilit | 5.05 | 4.18 | 3.42 | 2.83 | 2.36 | 1.94 | 1.56 | 1.23 | 0.97 | |
Strength | 9.50 | 7.95 | 6.55 | 5.25 | 4.30 | 3.65 | 3.30 | 3.05 | 2.85 | ||
(BMT) 0.55 | ช่วงแปเดี่ยว | Serviceabilit | 7.27 | 5.06 | 3.34 | 2.06 | 1.15 | 0.71 | 0.50 | 0.42 | - |
Strength | 12.00 | 11.60 | 9.60 | 7.75 | 6.10 | 4.75 | 3.60 | 2.65 | - | ||
ช่วงแปปลาย | Serviceabilit | 6.29 | 5.13 | 3.96 | 2.93 | 2.13 | 1.54 | 1.12 | 0.82 | 0.58 | |
Strength | 9.40 | 8.00 | 6.55 | 5.30 | 4.35 | 3.65 | 3.25 | 2.95 | 2.75 | ||
ช่วงแปกลาง | Serviceabilit | 7.37 | 5.96 | 4.66 | 3.54 | 2.72 | 2.22 | 1.92 | 1.64 | 1.38 | |
Strength | 9.90 | 8.55 | 7.35 | 6.25 | 5.40 | 4.75 | 4.30 | 3.85 | 3.45 |
เพื่อความปลอดภัยในการออกแบบกำลังของวัสดุควรเผื่อค่าความปลอดภัย โดยใช้ Safety Factor = 0.9
ผลการทดสอบการรับแรงลมแบบ Direct pressure test rig มีความแม่นยำสูง เนื่องจากได้จำลองการเกิดแรงลมในสภาวะจริงตามธรรมชาติ ส่วนการทดสอบด้วยวิธีถุงลมแบบเดิมจะมีการกระจายลมไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผลการทดสอบนั้นไม่แม่นยำพอ
เพราะฉะนั้นจึงสามารถมั่นใจได้กับรูปลอน LYSAGHT TRIMDEK® ที่ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพด้านต่างๆ มาแล้วเป็นอย่างดี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ LYSAGHT® เป็นผู้นำในตลาดวัสดุก่อสร้างมานานกว่า 20 ปี และเรามีความพิถีพิถันในการวิจัยและพัฒนาวัสสดุอย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลและค่าต่างงๆ ได้จากการทดสอบแบบครบวงจรในห้องทดลองของศูนย์วิจัยระดับโลกของ NATA Laboratory Australia
การระบายน้ำฝน
ความสามารถในการระบายน้ำฝนของแผ่นหลังคาเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่จำกัดความยาวของแผ่นหลังคาที่จจะนำมาใช้งานในประเทศไทย สถาปนิกส่วนใหญ่จะออกแบบหลังคาที่สามารถระบายน้ำฝนได้ไม่น้อยกว่า 150-250 มม./ชั่วมง ซึ่งแผ่นหลังคารุ่น LYSAGHT TRIMDEK® สามารถระบายน้ำฝนในปริมาณดังกล่าวได้อย่างดีเยี่ยม แม้มุมลาดเอียงของหลังคาต่ำ ดังแสดงในตารางที่ 3
ตารางที่ 3 ความยาวสูงสุดของแผ่นหลังคา (เมตร) : L
ปริมาณน้ำฝน (mm/hr) | มุมลาดเอียงของหลังคา | ||
1 in 12 (5°) | 1 in 7.5 (7.5°) | 1 in 6 (10°) | |
200 | 123 | 139 | 152 |
250 | 98 | 111 | 121 |
300 | 82 | 92 | 101 |
400 | 61 | 69 | 76 |
การติดตั้งแผ่นหลังคา (Roofing Installation)
ขั้นตอนที่ 1 ติดตั้งแผ่นหลังคาแผ่นแรก โดยให้ลอนตัวเมียอยู่ติดหน้าจั่ว
ขั้นตอนที่ 2 เช็คปลายแผ่นของหลังคาให้ยื่นล้ำไปในแนวรางน้ำอย่างเหมาะสม
ขั้นตอนที่ 3 ยึดสกรูทุกๆ สันลอนบริเวณแปปลายและแปเดี่ยว ส่วนแกลางให้ยึดลอนเว้นลอน
ขั้นตอนที่ 4 นำแผ่นหลังคาแผ่นที่สองขึ้นบนโครงสร้างหลังคา
ขั้นตอนที่ 5 วางแผ่นหลังคาให้ลอนตัวเมียซ้อนทับลอนตัวผู้ของแผ่นแรก
ขั้นตอนที่ 6 ใช้คีมหนีบบริเวณซ้อนทับแผ่น เพื่อความแนบแน่นในการยึดสกรูทั้งหัวและท้ายแผ่น
ขั้นตอนที่ 7 ทำการยึดสกรูบริเวณซ้อนทับทุกๆ สันลอน (สกรูสำหรับบริเวณซ้อนทับ
ขั้นตอนที่ 8A-8B หลังจากติดตั้งแผ่นหลังคา ไปประมาณ 10 แผ่น ควรเช็คแนวของแผ่นด้วยว่าเท่ากันหรือไม่
การติดตั้งผนัง (Walling Installation)
ขั้นตอนที่ 1 สำหรับวิธีการรติดตั้งผนัง จะเหมือนกับหลังคาและควรเช็คตำแหน่งการยึดสกรูด้วย
ขั้นตอนที่ 2 เมื่อติดตั้งแผ่นผนังแผ่นแรกเรียบร้อยแล้ว นำแผ่นที่ 2 วางซ้อนทับโดยใช้คีมหนีบหัวและท้าย พร้อมกับยึดสกรูบริเวณแปปลาย, แปเดี่ยวทุกๆ ท้องลอนและแปกลางยึดลอนเว้นลอน
การติดตั้งแผ่นปิดครอบข้าง (barge Capping Installation)
ขั้นตอนที่ 1 นำแผ่นปิดครอบข้างมาวาง โดยเริ่มติดตั้งจากปลายแผ่นและทำการยึดสกรูทุกระยะ 50 ซม.
2. Clean COLORBOND® XPD สำหรับอาคารที่ต้องการสีซึ่งทนทานเป็นพิเศษ
3. Clean COLORBOND® Ultra สำหรับอาคารในบริเวณที่มีการกัดกร่อนสูง
หมายเหตุ : สีเคลือบ Clean COLORBOND® Ultra มีชั้นเคลือบ ZINCALUME® AZ200 (triple spot 200 g/m2 Coating mass) สีเคลือบของแผ่นหลังคาและผนังเหล็ก Clean COLORBOND® XPD ใช้ระบบสีแบบ PVF2 (Polyvinylidene Fluoride) ตามคุณสมบัติของ KYNAR 500 ที่มีส่วนผสสมของเรซิน PVDF (PVF2) ไม่ต่ำกว่า 70% ของเนื้อสี
ข้อควรรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแผ่นหลังคาและผนังเหล็กทุกรุ่น
วัสดุที่เข้ากันได้
ควรใช้แปที่ทำจากเหล็ก SuperDyma® หรือทาสีป้องกันสนิม
วัสดุที่เข้ากันไม่ได้
วัสดุที่ห้ามนำมาใช้ร่วมกับแผ่นเหล็กเคลือบ ZINCALUME® ได้แก่ ตะกั่ว, ทองแดง, Stainless Steel, monel metal, wet and dry concrete, soils and vegetable matter เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับสารเคลือบ ZINCALUME® เป็นผลให้เกิดการผุกร่อนและเป็นสนิมบนตัวแผ่น
การต่อแผ่น
เนื่องจากไม่สามารถต่อแผ่นโดยการเชื่อม ดังนั้นถ้าต้องการต่อแผ่นให้ใช้สกรูหรือหมุดย้ำยึดรอยต่อ และซีลรอยต่อโดยรอบด้วยกาวซิลิโคน