ไม้ MDF ในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้ MDF

2680 จำนวนผู้เข้าชม  | 


ไม้ MDF ในท้องตลาดมีกี่แบบ เทคนิคในการเลือกซื้อไม้ MDF

          ไม้ MDF (Medium-Density Fiberboard) คือแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง โดยเอาเศษขี้เลื่อยของไม้ยางพารามาบดอัด นำมาผสมกับกาวสังเคราะห์ แล้วจึงอัดเป็นแผ่นโดยกรรมวิธีแบบแห้ง คืออัดด้วยความร้อน (Dry Process) เพื่อให้เกิดความยึดเหนี่ยวระหว่างเส้นใยจนเป็นเนื้อเดียวกัน และกาวเป็นตัวช่วยประสาน โดยจะทำให้ไม้มีความหนาแน่นสูง ด้วยกระบวนการผลิตที่มีความละเอียด ซับซ้อน จึงทำให้เนื้อไม้มีความแน่น ละเอียด ผิวเนียน สามารถนำมาพ่นสีในเนื้อไม้ได้สวยงาม สามารถปิดผิวด้วยกระดาษ แผ่นเมลามีน ซึ่งทำให้ได้ไม้อัดที่มีความสวยงาม ไม้ชนิดนี้จึงไม่เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง

          ไม้ MDF เหมาะกับการทำ Built-In furniture สามารถปิดผิว ทำสี สลักลาย เซาะร่อง เหมาะกับมีผิวเนื้อในละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั่วทั้งแผ่น มีความหนา ความแน่นและความเรียบสม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่น สามารถขูดแต่งเนื้อไม้ได้เรียบเนียน งานที่ออกมาจึงดูเรียบร้อยไม่เป็นขุย สามารถนำมาพ่นสีในเนื้อไม้ได้สวยงาม โดยส่วนมากนิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ทั้งลอยตัวและบิวท์อิน ไม่ว่าจะเป็น ตู้ โต๊ะเตียง พื้นอาคาร กรุผนัง นำไปปิดผิว พ่นสี และใช้ในอุตสาหกรรมตกแต่งรวมทั้งงานแกะสลักได้เกือบทุกชนิดหรือแม้กระทั่งกรอบรูป

ไม้  MDF ที่ใช้งานในปัจจุบันนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

          1. ไม้  MDF ชนิดความหนาแน่นสูง โดยมากนิยมใช้ทำพื้นอาคาร บ้านเรือน นำไปปิดผิว งานตกแต่งภายใน พ่นสี ให้ดูดียิ่งขึ้น สามารถขึ้นรูปและตกแต่งได้ง่าย หรือใช้ทำพื้นอาคารที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก

          2. ไม้  MDF ชนิดความหนาแน่นปานกลาง นิยมใช้ในอุตสาหกรรมตกแต่ง เป็นไม้ที่ใช้ในงานฝีมือ ทั้งงานแกะสลักได้เกือบทุกชนิด รวมไปถึงการทำเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบต่างๆ

          3. ไม้  MDF ชนิดความหนาแน่นต่ำ นิยมใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ประเภท Knock-down เนื่องจากมีน้ำหนักเบา โดยไม้  MDF ประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในโซนยุโรป และอเมริกา

          แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลางหรือ ไม้ MDF ( Medium Density Fiberboard) ที่ใช้กันทั่วไปนั้นมีหลายเกรดด้วยกันคือ Super E0, E0, E1 และ E2 มีวิธีการเลือกใช้ไม้ MDF ดังนี้

  • E2 เป็นเกรดที่นิยมใช้สำหรับงานไม้และเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปในเมืองไทย โดยใช้การระบายถ่ายเทอากาศเพื่อให้สารฟอมัลดีไฮด์ลดลง ก่อนที่จะเข้าใช้งานในบริเวณดังกล่าว หรือสามารถลดการปล่อยสารได้ด้วยการ ใช้แผ่นเมลามีนปิดผิวไม้ หรือทำสีเคลือบผิว เป็นต้น
  • E1 เป็นเกรดที่มีสารฟอร์มัลดีไฮด์เจือปนไม่เกิน 0.1 ppm. ซึ่งเหมาะสำหรับทุกคนที่ห่วงใยในสุขภาพเป็นพิเศษ นิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในโรงพยาบาล บ้านพักคนชรา ของเล่นเด็ก และเหมาะในการใช้ตกแต่งภายในบ้านพักอาศัย และอาคารทั่วไป
  • E0 มีคุณสมบัติที่ดีกว่าเกรด E1 โดยไม้ที่จะผ่านมาตรฐาน E0 คือมีสารฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนไม่เกิน 0.07 ppm.
  • Super E0 เป็นไม้ที่พัฒนาจากไม้ E0 ขึ้นอีกระดับหนึ่งเป็นไม้ที่มีระดับฟอมัลดีไฮด์ต่ำมากจนเทียบเท่าไม้ธรรมชาติ แต่ราคาก็สูงตามคุณภาพด้วย

     

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้